Happy Pride Month 2024

Last updated: 7 Nov 2024
91 Views
Happy Pride Month 2024

ขณะนี้เริ่มต้นเข้าสู่เดือนมิถุนายน หลายคนคงรับรู้ได้ถึงการประดับประดาตกแต่งถนนและสถานที่ต่างๆ ด้วยสีรุ้ง รวมทั้งการเกิดขึ้นของกิจกรรมจำนวนมากที่เกี่ยวกับสิทธิในความหลากหลายทางเพศ บรรยากาศของเทศกาลสนับสนุนเรื่อง LGBTQIAN+ อบอวลไปทั่ว สร้างสีสันให้กับชีวิตประจำของผู้คนไปพร้อมกับการตระหนักรู้ถึงความเท่าเทียมและความหลากหลายตลอดเดือนนี้

จุดเริ่มต้นของ Pride Month
จุดเริ่มต้นของ Pride Month เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงยุคปี 1960 ซึ่งเป็นยุคที่สังคมยังไม่เปิดรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเหมือนในวันนี้ ส่งผลให้เกิดการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมต่อกลุ่ม LGBT ในช่วงเวลานั้นมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงกับออกกฎหมายให้ประชาชนแต่งกายให้ตรงกับเพศสภาพ รวมถึงเข้าควบคุมบาร์เกย์ และสั่งห้ามเปิดให้บริการ ทำให้หลายคนต้องปกปิดตัวตน เนื่องจากถูกรัฐและสังคมกดดันอย่างหนัก

จนกระทั่งวันที่ 28 มิถุนายน 1969 เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวผู้ใช้บริการในบาร์เกย์ "สโตนวอลล์ อิน" (Stonewall Inn) พร้อมทั้งใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้มีความหลากหลายทางเพศ สร้างความไม่พอใจให้กลุ่ม LGBT เป็นอย่างมาก

เหตุการณ์ปราบจลาจลในครั้งนั้นกลายเป็นชนวนให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศและประชาชนจำนวนมากออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิ ความเท่าเทียม และต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงออกทางตัวตน โดยเริ่มจากการเคลื่อนไหวในมหานครนิวยอร์ก ก่อนจะขยายไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา

ยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามมากเท่าไร ฝูงชนก็ยิ่งเดินทางมารวมตัวกันมากขึ้น นับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กลุ่ม LGBT ออกมาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ และยอมรับตัวตนต่อสื่อสาธารณะ นำไปสู่การเดินขบวนประท้วง ขบวนพาเหรด และการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สื่อถึง "ไพรด์" (Pride) หรือความภาคภูมิใจในตนเอง

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกวันที่ 28 มิถุนายน จึงเป็นวันที่ทั่วโลกร่วมกันรำลึกถึงเหตุการณ์จลาจลสโตนวอลล์ (Stonewall Riots) อันเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมให้แก่กลุ่ม LGBT มาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

  • ปี 2000 ปธน.บิล คลินตัน ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็น "เดือนแห่งความภูมิใจของชาวเกย์และเลสเบี้ยน" (Gay & Lesbian Pride Month)
  • ปี 2009 ปธน.บารัก โอบามา ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็น "เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาวหลากหลายทางเพศ" (Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender Pride Month)
  • ปี 2019 เจมส์ พี. โอนีลล์ อธิบดีกรมตำรวจของมหานครนิวยอร์ก แถลงขอโทษอย่างเป็นทางการ ในนามของกรมตำรวจนิวยอร์ก สำหรับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อปี 1969 ซึ่งกินเวลานานกว่า 50 ปี กว่าจะมีการขอโทษ

รู้จัก LGBTQIAN+ แต่ละตัวอักษรหมายถึงอะไร
สำหรับความหมายของ LGBTQIAN+ นั้นย่อมาจากคำเรียกเพศวิถีต่างๆ ที่มีความหลากหลายทางเพศ จากเดิมที่มีตัวอักษร "LGBT" แค่จำนวน 4 ตัว แต่ต่อมาได้เพิ่มเครื่องหมาย + บวกเข้าไป เพื่อสื่อถึงความหลากหลายที่เพิ่มเข้ามา จนกระทั่งเป็น LGBTQIAN+ ในปัจจุบัน ซึ่งย่อมาจากคำดังต่อไปนี้

  • L = Lesbian (เลสเบี้ยน) - เพศหญิงที่ชอบและสนใจเพศหญิงด้วยกัน
  • G = Gay (เกย์) - เพศชายที่ชอบและสนใจเพศชายด้วยกัน
  • B = Bisexual (ไบเซ็กชวล) - กลุ่มที่ชอบได้ทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม
  • T = Transgender (ทรานส์เจนเดอร์) - ผู้ที่เพศกำเนิดไม่ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ
  • Q = Queer (เควียร์) - ผู้ที่ไม่ได้จำกัดว่าเป็นเพศใด และต้องรักกับเพศใด
  • I = Intersex (อินเตอร์เซ็กซ์) - ผู้ที่มีภาวะเพศกำกวม ระบุเพศไม่ได้ มีลักษณะทางกายภาพแตกต่าง
  • A = Asexual (อะเซ็กซวล) - ผู้ที่ไม่มีแรงดึงดูดทางเพศ แต่มีรักโรแมนติกและเพศสัมพันธ์ได้
  • N = Non-Binary (นอน-ไบนารี่) - ผู้ที่ไม่ต้องการระบุเพศของตัวเอง ไม่จำกัดอยู่ที่เพศชายหรือหญิง

ธงสีรุ้งมาจากไหน ?
ธงสีรุ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวเพื่อความหลากหลายทางเพศ เป็นหนึ่งในภาพจำสำคัญของ LGBT Pride ผู้ออกแบบคนแรกคือ ชาวอเมริกัน "กิลเบิร์ต เบเกอร์" (Gilbert Baker) ซึ่งเป็นนักกิจกรรมคนสำคัญในการขับเคลื่อนสิทธิและเสรีภาพให้กลุ่ม LGBT

เขาเริ่มออกแบบธงสีรุ้งครั้งแรกในปี 1978 โดยใช้สีแถบธงจำนวน 8 สี ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแถบธงชาติของสหรัฐฯ ต่อมาได้ตัดออก 2 สี ได้แก่ สีชมพู (หมายถึง เพศวิถี) และสีน้ำเงินคราม (หมายถึง ความสามัคคีกลมเกลียว) เนื่องจากในสมัยนั้น 2 สีดังกล่าวผลิตยากและมีราคาค่อนข้างแพง ทำให้ธงสีรุ้งเหลือเพียง 6 สีเหมือนอย่างเช่นในปัจจุบัน ความหมายของแต่ละสีบนธงสีรุ้ง มีดังนี้

  • สีแดง หมายถึง ชีวิต
  • สีส้ม หมายถึง การเยียวยา
  • สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์
  • สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ
  • สีฟ้า หมายถึง ศิลปะ
  • สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณ

Pride Parade ใน Pride Month
กิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งใน Pride Month ที่มองว่าขาดเสียมิได้และถือว่าเป็นตัวชูโรงคือ Pride Parade ซึ่งเป็นการเดินขบวนที่เปิดโอกาสให้คนทุกเพศทุกวัยร่วมกันแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ และ Pride Parade กำลังทำหน้าที่อะไรในการสื่อสารต่อสังคม

1.    สร้างความสนุกสนานร่าเริงให้กับผู้คน: เพราะ Pride Parade เปี่ยมด้วยสีสัน เสียงเพลง ความบันเทิง ความสนุกสนานครึกครื้น ไม่ใช่ขบวนเคร่งขรึมหรือการรำลึกอย่างเศร้าสร้อย และหน้าที่นี้ถือเป็นเครื่องมือแรกที่ผู้คนทุกเพศทุกวัยสัมผัสได้โดยง่าย หรืออาจเรียกได้ว่าทำหน้าที่เหมือนกับเมนูออร์เดิร์ฟให้ทุกคนได้รับรู้และมีความสุขไปด้วยกัน

2.    กระตุ้นให้ตระหนักรู้ถึงการมีอยู่ของความหลากหลายทางเพศ: โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมที่มองว่าผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นสิ่งประหลาด ผิดปกติ หรือชนกลุ่มน่าเวทนา การเดินขบวนดังกล่าวจึงมีขึ้นเพื่อทำหน้าที่ว่า ตัวตนทางเพศของมนุษย์มีหลายเฉด วิถีทางเพศมีความหลากหลาย ดังนั้น ผู้มีความหลากหลายทางเพศจึงเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในสังคม ในแง่นี้ การเดินขบวนด้วยสีสันและความบันเทิงจึงทำหน้าที่กู่ร้องให้ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของ LGBTQIAN+

3.    รณรงค์ให้ขจัดความอยุติธรรมทางเพศ: ข้อนี้คือหน้าที่กระตุ้นเตือนผู้มีอำนาจและสะท้อนไปยังหัวใจของผู้คนถึงความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นกับผู้มีความหลากหลายทางเพศในฐานะมนุษย์ที่ควรได้รับสิทธิอันพึงมีพึงเป็นเหมือนกับเพื่อนมนุษย์คนอื่นในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นจากกฎหมายและนโยบายของบ้านเมือง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2697478
https://thestandard.co/the-origins-of-pride-month/
https://thestandard.co/lgbtqian-plus-acronym-explained/
https://www.thaipbs.or.th/news/content/340335

 

กลับสู่  หน้าหลักของ I.P. Learn      l      Knowledge Sharing (การแลกเปลี่ยนเรียนรู้)

Related Content
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy